คู่มือการใช้งาน Office Tool Plus (ภาษาไทย) แบบละเอียด

วิธีใช้ Ohook Activation

Ohook Activation คือสคริปต์ที่อยู่ในชุดของสคริปต์ Microsoft Activation Scripts ซึ่งสามารถ Activate Microsoft Office เกือบทุกรุ่น และมีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากเป็นโอเพ่นซอร์ส (Open Source) ในเว็บ GitHub มีคนคอยช่วยตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา โดยมีขั้นตอนการใช้งาน ดังนี้:

• ดาวน์โหลดชุดของสคริปต์ Microsoft Activation Scripts ซึ่งอยู่ในรูปแบบไฟล์ zip ชื่อ Microsoft-Activation-Scripts-master.zip
• แตกไฟล์ Microsoft-Activation-Scripts-master.zip
• เข้าไปที่โฟล์เดอร์ MAS > Separate-Files-Version > Activators
  • ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ Ohook_Activation_AIO.cmd (หรือคลิกขวาที่ไฟล์ แล้วกด Run as administrator)
  • จะมีหน้าต่าง CMD สีดำเด้งขึ้นมา ให้พิมพ์เลข 1 เพื่อเลือก Install Ohook Office Activation
  • รอจนกระบวนการเสร็จสิ้นแล้วปิดหน้าต่าง CMD ออกไป

• เมื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง Ohook Activation ก็สามารถเปิดโปรแกรม Office เช่น Word, Excel จากเมนู Start หรือทางลัดบน Desktop ได้เลย

💡 เคล็ดลับ: ปกติแล้ว Microsoft Activation Scripts รวมไปถึง Ohook Activation มีความปลอดภัยสูงมาก จะไม่มีการลบหรือบล็อกจากแอนตี้ไวรัสแต่อย่างใด แต่หากพบว่ามีปัญหาในการ Activate หลังจากติดตั้ง Office เสร็จแล้ว แนะนำให้ปิดแอนตี้ไวรัสที่ใช้อยู่ชั่วคราว เพื่อให้กระบวนการแอคติเวทราบรื่น

การถอนการติดตั้ง Office

หากเครื่องเรามี Office รุ่นเก่าติดตั้งอยู่ แล้วต้องการติดตั้ง Office ใหม่ (หรือพบปัญหาในการติดตั้ง Office เพราะชนกับเวอร์ชันเก่า) เราสามารถใช้ Office Tool Plus ช่วยถอนการติดตั้ง Office เดิมได้อย่างหมดจด โดยมีวิธีการง่ายๆ ดังนี้:

• เปิดโปรแกรม Office Tool Plus
• ไปที่แท็บ กล่องเครื่องมือ (Toolbox)
• เลื่อนลงมาดูที่หมวด เครื่องมือ Office (Office tools)
• จากนั้นที่เครื่องมือ ลบ Office (Remove Office) ให้กด ลบ (Remove) > แล้วกด ใช่ (Yes)
• รอจนกระบวนการเสร็จสิ้นแล้ว รีสตาร์ทเครื่อง หนึ่งครั้งเพื่อเคลียร์ Sevices หรือไฟล์ที่ค้าง (ปกติไม่จำเป็น)

• เครื่องมือนี้รองรับการลบ Office ทุกเวอร์ชัน ที่ติดตั้งบน Windows (ตั้งแต่ Office 2007 เป็นต้นมา)
• หากมี Office แบบติดตั้งผ่าน Microsoft Store (เช่น Office ที่มากับ Windows 10/11) และต้องการลบนั้นด้วย ให้ทำเครื่องหมายถูกที่ตัวเลือก ลบ Office รุ่น Microsoft Store ออกด้วย (Also remove the Microsoft Store edition of Office)
• หากต้องการล้างข้อมูลการเปิดใช้งานเดิมออก สามารถติ๊กตัวเลือก ล้างการเปิดใช้งานด้วย (Also clear activation) เพื่อลบข้อมูลไลเซนส์และคีย์ Office ทั้งหมดในเครื่องออก

💡 เคล็ดลับ: ในบางกรณี เครื่องมือลบ Office อาจแจ้งข้อผิดพลาดหรือลบไม่สำเร็จในทันที ให้ลอง กด Remove Office ซ้ำอีกครั้ง หรือทำการลบ Office ด้วยตัวเองผ่าน Add/Remove Programs ของ Windows ก่อน แล้วจึงใช้เครื่องมือ Remove Office ช่วยทำความสะอาดขั้นสุดท้าย

การตั้งค่า KMS และวิธีเปิดใช้งาน Office (Activation)

หลังจากติดตั้ง Office ผ่าน Office Tool Plus แล้ว ขั้นตอนสำคัญถัดไปคือการ เปิดใช้งาน (Activate) เพื่อให้ Office เป็นของแท้พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ โดย Office Tool Plus มีหน้า Activate (การเปิดใช้งาน) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกหลายอย่าง ดังนี้:

• การเปิดใช้งานด้วยบัญชี Microsoft 365 หรือคีย์แท้ (Online Activation): หากคุณติดตั้ง Office รุ่นที่ต้องล็อกอิน (เช่น Microsoft 365 Apps) คุณสามารถเปิดแอป Office แล้วลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Microsoft ที่มีสิทธิ์การใช้งานได้เลย Office จะเปิดใช้งานอัตโนมัติในกรณีนี้ สำหรับการเปิดใช้งานด้วย Product Key แบบ Retail (ซื้อขาด) คุณก็สามารถใส่คีย์ผ่านหน้าต่าง Activate ของ Office ได้โดยตรงหรือจะใช้ Office Tool Plus ในการติดตั้งคีย์ก็ได้ โดยในหน้า Activate ของ Office Tool Plus ส่วน Key Management > Install key คุณสามารถกรอกชุดคีย์ 25 หลักแล้วกดติดตั้ง โปรแกรมจะส่งคำสั่งติดตั้งคีย์ให้ Office จากนั้น Office จะทำการตรวจสอบกับเซิร์ฟเวอร์ Microsoft ผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อเปิดใช้งานให้ (เครื่องต้องออนไลน์)
• การเปิดใช้งานผ่านโทรศัพท์ (Phone Activation): เป็นวิธีที่ใช้เมื่อไม่มีอินเทอร์เน็ตหรือคีย์ไม่สามารถเปิดใช้งานออนไลน์ได้ (เช่นคีย์ Volume MAK ที่ใช้เกินจำนวน จำเป็นต้องโทรยืนยัน) Office Tool Plus ช่วยให้ง่ายขึ้น โดยในหน้า Activate ส่วน Licenses list (รายการไลเซนส์ Office) จะมีปุ่มให้คัดลอก Installation ID (IID) สำหรับส่งให้ระบบตอบรับอัตโนมัติของไมโครซอฟท์ เมื่อโทรไปยังศูนย์บริการและกรอก IID นี้ คุณจะได้รับ Confirmation ID (CID) กลับมา จากนั้นใน Office Tool Plus ส่วน Key Management มีช่อง Install confirmation ID ให้กรอก CID ที่ได้ลงไปแล้วกดติดตั้ง Office ก็จะถูกเปิดใช้งานแบบโทรศัพท์เรียบร้อย (ฟังก์ชันนี้ช่วยไม่ต้องเปิด UI ของ Office เพื่อกรอกตัวเลขยาว ๆ ด้วยตนเอง)
• การเปิดใช้งานผ่าน KMS (Key Management Service): วิธีนี้ใช้สำหรับ Office รุ่น Volume License (เช่น Office LTSC หรือ Office รุ่นที่องค์กรซื้อไลเซนส์แบบ Volume) ซึ่งจะไม่ใช้การล็อกอินบัญชีหรือคีย์ตรง ๆ แบบ Retail แต่ใช้การติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์ KMS ภายในองค์กรหรือภายนอกแทน ขั้นตอนการใช้งาน KMS ผ่าน Office Tool Plus คือ: (1) ติดตั้งไลเซนส์รุ่น Volume ให้กับ Office ก่อน – ไปที่หน้า Activate ส่วน Licenses management เลือกไลเซนส์ Office รุ่นที่ตรง (เช่น Office LTSC Professional Plus 2024 – Volume License) แล้วกด Install license โปรแกรมจะติดตั้งไลเซนส์ Volume และใส่ KMS Client Key (GVLK) ที่เกี่ยวข้องให้โดยอัตโนมัติใน Office; (2) ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ KMS – ในส่วน KMS management จะมีช่องให้ใส่ที่อยู่ KMS Host (ใส่ได้ทั้งชื่อโดเมนหรือหมายเลข IP ของเซิร์ฟเวอร์ KMS) เช่น kms.example.com หรือ 192.168.xxx.xxx หาก KMS ใช้พอร์ตที่ไม่ใช่ค่าเริ่มต้น 1688 ก็สามารถใส่ตามหลังโฮสต์ด้วยโคลอน เช่น kms.example.com:1688 เมื่อกรอกแล้วกด Set host; (3) กดปุ่ม Activate ในส่วน Licenses management เพื่อเริ่มติดต่อเซิร์ฟเวอร์ KMS และเปิดใช้งาน Office ได้เลย หากทุกอย่างถูกต้อง Office จะเปลี่ยนสถานะเป็นเปิดใช้งานเรียบร้อย (Activated)
  • ข้อควรทราบ: การเปิดใช้งานผ่าน KMS จะมีอายุ 180 วัน แล้วหมดอายุ แต่ตัว Office จะทำการตรวจสอบต่ออายุเองทุกๆ 7 วันโดยอัตโนมัติ (ต่ออีก 180 วันไปเรื่อย ๆ) ตราบใดที่เครื่องต่อเครือข่ายและเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ KMS เดิมได้ ดังนั้นหากใช้ KMS ควรมีการเชื่อมต่อเครือข่ายถึง KMS อย่างน้อยภายใน 180 วัน
  • หากในขั้นตอน Activate ผ่าน KMS มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น Office Tool Plus จะรายงาน Error code และข้อความสาเหตุ ซึ่งสามารถกดที่รหัสนั้น (สีฟ้า) เพื่อค้นหาคำแนะนำการแก้ปัญหาได้ทันที (โปรแกรมจะเปิดเว็บไปยังหน้าวิธีแก้ error code นั้น ๆ) เช่น error ยอดนิยมกรณี ไม่ได้ตั้งค่า KMS host จะขึ้นรหัส 0x8007232B (DNS name does not exist) เป็นต้น (ดูหัวข้อถัดไปสำหรับแนวทางแก้ไข)
• การจัดการไลเซนส์ Office (Licenses Management): Office Tool Plus ช่วยให้เราสามารถบริหารไลเซนส์และคีย์ของ Office ในเครื่องได้สะดวก เช่น
  • ดูรายการไลเซนส์ Office ที่ติดตั้งอยู่ทั้งหมดในเครื่อง (ทั้งไลเซนส์แบบ Volume และแบบ Subscription ซึ่งเรียกว่า vNext) พร้อมข้อมูลสถานะ/วันหมดอายุ/บัญชีผู้ใช้ที่ผูกอยู่ (กรณี vNext เช่น Microsoft 365)
  • สามารถติดตั้งไลเซนส์ Office เพิ่มเติมโดย ไม่ลบของเดิม (ทำให้ 1 เครื่องมีหลายไลเซนส์ควบคู่กันได้) เช่น หากเครื่องเดิมมี Office 365 อยู่ แต่อยากติดตั้งไลเซนส์ Volume Office 2021 เพิ่มเพื่อใช้ KMS ก็ทำได้ ไลเซนส์จะอยู่ร่วมกัน
  • โปรแกรมมี KMS Client Key และ Grace Key ติดมาภายใน ทำให้เวลาเราติดตั้งไลเซนส์ Volume หรือ Retail แบบทดลองใช้ Office Tool Plus จะใส่คีย์เหล่านี้ให้อัตโนมัติหลังติดตั้งไลเซนส์ (ลดขั้นตอนที่เราต้องใส่คีย์เอง) แต่ถ้าเป็นกรณีติดตั้งไลเซนส์อื่นเอง (ผ่านไฟล์ไลเซนส์) เราจะต้องใส่ Product Key เอง
  • มีปุ่ม Uninstall all licenses เพื่อลบข้อมูลไลเซนส์ Office ออกจากเครื่องทั้งหมด (ยกเว้นคีย์ที่ติดตั้งไว้จะไม่ถูกแตะ) ใช้ในกรณีที่ต้องการ “ล้างไลเซนส์” ก่อนติดตั้งใหม่ (ปกติไม่ค่อยต้องใช้ ยกเว้นมีปัญหาไลเซนส์ซ้ำซ้อน)
  • การจัดการคีย์ (Keys): นอกจากติดตั้งคีย์ (Install key) ได้ดังที่กล่าวแล้ว Office Tool Plus ยังมีปุ่ม Uninstall all unactivated keys เพื่อลบคีย์ที่อยู่ในเครื่องแต่ยัง ไม่ได้ activate ออกทั้งหมด (กรณีเคยใส่คีย์ผิดหรือคีย์หมดอายุไว้หลายตัว จะได้ไม่หลงเหลือ)
  • Convert License/Edition: หากคุณต้องการแปลง Office จากรุ่น Retail ไปเป็น Volume (เพราะอยากใช้ KMS) หรือเปลี่ยน SKU อื่น ๆ Office Tool Plus รองรับโดยการติดตั้งไลเซนส์ที่ต้องการลงไป (อย่างที่อธิบายข้างต้น) และถอนคีย์เก่าที่ไม่ต้องการออก เพียงเท่านี้ Office ที่ติดตั้งก็จะ “เปลี่ยนสภาพ” เป็นรุ่นใหม่ตามไลเซนส์ที่เราใส่ทันที โดยไม่ต้องถอนโปรแกรมแล้วลงใหม่ให้เสียเวลา
• คำแนะนำเพิ่มเติม:
  • ก่อนการเปิดใช้งาน Office ควรตรวจสอบว่า Windows ของคุณได้รับการเปิดใช้งานถูกต้องแล้ว หาก Windows ยังไม่ Active อาจเกิดปัญหาบางอย่างกับการ Activate Office ตามมาได้
  • หากคุณใช้งาน Office Tool Plus เพื่อ Activate แล้ว Office ยังแจ้งเตือนสถานะ Trial/Unlicensed อยู่ อาจจำเป็นต้อง ปิดแล้วเปิดโปรแกรม Office ใหม่ หรือ รีบูตเครื่อง หนึ่งครั้ง
  • สำหรับผู้ที่ใช้ Office 365 อยู่และ Office Tool Plus แจ้งเตือนว่า “We noticed you just updated your license. Please reboot Microsoft Project…” (หรือ Office แอปอื่น) ซึ่งหมายความว่าไลเซนส์ในเครื่องเปลี่ยนแปลง ให้ลองใช้เครื่องมือ Reset Office settings to defaults ในหน้า Toolbox (ดูหัวข้อถัดไป) เพื่อแก้ไขสถานะการตั้งค่าของ Office

การจัดการใบอนุญาต Office ด้วย Office Tool Plus

หัวข้อนี้เกี่ยวข้องกับการใช้งานหน้า Activate ของ Office Tool Plus ซึ่งมีส่วนสำคัญคือ Licenses management และ Key management ที่เราได้กล่าวถึงบางส่วนแล้ว ต่อไปนี้จะสรุปรายละเอียดการจัดการไลเซนส์:

• ดูข้อมูลไลเซนส์ที่ติดตั้ง: ในหน้า Activate ส่วนล่างจะมีรายการ Office licenses list แสดงไลเซนส์ Office ทุกตัวที่ติดตั้งบนเครื่อง แบ่งเป็นประเภท vNext licenses (เช่น Microsoft 365, Office 2019+ แบบที่ผูกบัญชีออนไลน์) และ Office legacy licenses (เช่น Office 2016/2019/2021 แบบ Volume หรือ Retail ที่ไม่ผูกบัญชี) คุณสามารถดูได้ว่าไลเซนส์ใด Activated อยู่ (มีเครื่องหมายถูกสีเขียว) หรือหมดอายุเมื่อใด รวมถึงชื่อบัญชีผู้ใช้ที่ผูกกับไลเซนส์ (กรณี vNext)
• การติดตั้งไลเซนส์เพิ่มเติม: หากต้องการเพิ่มไลเซนส์ใหม่ (เช่น เพิ่ม Visio หรือแปลงเป็น Volume) ไปที่ส่วน Licenses management > Install license จะมีรายการผลิตภัณฑ์/ไลเซนส์ให้เลือก เช่น Office, Visio, Project ทั้งรุ่น Retail และ Volume ให้เลือกไลเซนส์ที่ต้องการแล้วกดติดตั้ง Office Tool Plus จะเพิ่มไลเซนส์นั้นเข้าไปในระบบ Office ของคุณ โดยไม่ลบไลเซนส์เดิม ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถมี Office หลายไลเซนส์ในเครื่องเดียว (Office เองจะเลือกใช้ไลเซนส์ที่ถูกต้องตามการเปิดโปรแกรม เช่น เปิด Word มันก็จะดูว่ามีไลเซนส์ Word ตัวไหน Active อยู่)
  • ตัวอย่าง: เครื่องคุณมี Office 365 อยู่ แต่คุณอยากใช้ KMS เปิดใช้งานด้วย ก็สามารถ Install license เป็น Office LTSC 2021 Volume เพิ่มเข้ามา จากนั้นติดตั้ง KMS key ให้มันแล้ว Activate (ดังหัวข้อ KMS ด้านบน) ผลคือ Office จะมีทั้งไลเซนส์ 365 และ 2021Volume อยู่ และจะแสดงสถานะ Active จาก Volume ด้วย (เพื่อความปลอดภัย คุณอาจ Logout บัญชี Microsoft 365 ออกก่อน หากต้องการให้ตัว UI Office แสดงชื่อไลเซนส์เป็น Volume อย่างเดียว)
• ติดตั้งคีย์ผลิตภัณฑ์ (Product Key): ในส่วน Key management มีช่องสำหรับใส่คีย์ 25 หลักดังที่ได้กล่าวไป และควรระวังว่าหากมี Error 0xC004F069 ปรากฏตอนใส่คีย์ แปลว่าคุณใส่คีย์ที่ไม่ตรงกับไลเซนส์ที่มีในเครื่อง เช่น ใส่คีย์ Volume แต่ยังไม่ได้ติดตั้ง Volume License ลงไป (ต้องกลับไป Install license Volume ก่อนแล้วค่อยใส่คีย์ใหม่)
• การถอนคีย์และไลเซนส์: นอกจากปุ่ม Uninstall all licenses ที่ลบข้อมูลไลเซนส์ออก (ยกเว้นคีย์) ในส่วน Key management ยังมีปุ่ม Uninstall all unactivated keys สำหรับลบคีย์ที่ไม่ได้ Active ออกด้วย เช่น คีย์ทดลองที่ยังไม่เคยใช้หรือใช้ไม่ผ่าน และในรายการ Office licenses list เอง หากเลือกดูไลเซนส์ legacy จะมีปุ่ม Uninstall key เพื่อถอนคีย์ของไลเซนส์นั้นออกทีละตัวได้ (เช่น ในเครื่องเคยใส่ MAK key แต่เราอยากเอาออก)
• การแก้ไขชื่อผู้ถือไลเซนส์ (สำหรับ Office 365): มีฟังก์ชันขั้นสูงใน Toolbox ที่ชื่อ Change Office product owner เอาไว้เปลี่ยน ชื่อบัญชี ที่ปรากฏใน Office (ตรงหน้า Account ที่บอกว่า “ผลิตภัณฑ์นี้เป็นของ: …”) ซึ่งกรณีทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้ ยกเว้นในองค์กรที่ต้องการแสดงชื่ออื่นแทน สามารถศึกษาวิธีในเอกสารเพิ่มเติมได้

โดยสรุป หน้า Activation ของ Office Tool Plus ทำหน้าที่เสมือน ศูนย์ควบคุมไลเซนส์ ให้คุณมองเห็นและจัดการสิทธิ์การใช้งาน Office ในเครื่องทั้งหมดได้ง่ายในที่เดียว ซึ่งเครื่องมือนี้มีประโยชน์มากเวลาแก้ไขปัญหาเรื่องการ Activate เช่น กรณี Activate ไม่ผ่านเพราะคีย์ไม่ตรงรุ่น ก็สามารถติดตั้งไลเซนส์ที่ตรงแล้วใส่คีย์ใหม่ผ่านหน้านี้ หรือกรณีอยากสลับไปใช้ KMS ก็ทำได้จากที่นี่เลย

การตั้งค่าขั้นสูงและการปรับแต่ง (Advanced Configurations)

สำหรับผู้ใช้ระดับสูงหรือผู้ดูแลระบบ IT Office Tool Plus ยังมีส่วน การตั้งค่าขั้นสูง ในหน้า Deploy ที่ให้คุณปรับรายละเอียดเชิงลึกของการติดตั้ง Office และกำหนดค่าต่าง ๆ เพิ่มเติม:

• Advanced Deploy Settings: ในหน้า Deploy จะมีแท็บ Basic settings (ค่าเริ่มต้น) และสามารถสลับไปแท็บ Advanced settings ได้ (ปุ่มสลับมักอยู่ด้านบนหรืออาจมี icon ⚙️) เมื่อเข้าโหมด Advanced จะมีตัวเลือกเพิ่ม เช่น
  • Office version – ให้เลือกหมายเลขเวอร์ชันเฉพาะของ Office ถ้าต้องการติดตั้งเวอร์ชันย้อนหลังหรือเวอร์ชันเฉพาะเจาะจง (โดย Office Tool Plus จะดึงรายการ build เก่า ๆ ที่ Microsoft เปิดให้ใช้งานบน channel นั้น ๆ มาให้เลือก) เช่น ต้องการติดตั้ง Office เวอร์ชัน 16.0.103xx แทนที่จะเป็นล่าสุด ก็เลือกจาก drop-down ได้ (ต้องออนไลน์เพื่อดึงข้อมูล build)
  • Source path – ช่องให้ระบุพาธไปยังไฟล์ติดตั้ง Office โดยตรง แต่ผู้พัฒนาระบุว่า ถ้ามีไฟล์อยู่ ให้ใช้ปุ่ม Select ในหน้า Installation files ดีกว่า ไม่ควรกรอก path ตรงนี้เอง เพราะอาจผิดพลาดได้
  • Activation settings – การตั้งค่าเกี่ยวกับการเปิดใช้งานที่จะฝังลงใน config (สำหรับผู้ดูแลระบบเท่านั้น ในการติดตั้งทั่วไปไม่ควรปรับ) เช่น อาจใช้กำหนดให้หลังติดตั้ง Office เรียกใช้งานสคริปต์ KMS หรือใส่ product key ให้อัตโนมัติ ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปไม่ต้องยุ่งส่วนนี้
  • Application preferences – ส่วนนี้ทรงพลังมาก เพราะเปิดโอกาสให้ตั้งค่าค่าเริ่มต้นของแอป Office ต่าง ๆ เช่น เปิด/ปิดแมโคร, กำหนดตำแหน่ง default ของการบันทึกไฟล์, กำหนดรูปแบบไฟล์เริ่มต้น (เช่นให้ Word default บันทึก .doc แทน .docx) เป็นต้น แล้วค่าพวกนี้จะถูกนำไปใช้กับ Office ที่ติดตั้ง (กับทุก user ของเครื่อง) ประหนึ่งว่าตั้ง policy ไว้
  • อื่น ๆ: ยังมีตัวเลือกอื่นที่สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเอกสาร Microsoft Office Deployment Tool เช่น การกำหนดให้หลังติดตั้งเสร็จทำอะไรต่อ (After deployment) อย่าง Restart เครื่อง หรือการติดตั้ง Slide (ปลั๊กอินเสริม) เป็นต้น
• การสร้างไฟล์ ISO ของ Office: ในเมนูด้านข้างใต้หัวข้อ Create Office ISO Office Tool Plus มีฟังก์ชันช่วยแพ็กไฟล์ติดตั้ง Office และ config เป็นไฟล์ .ISO ในกรณีที่คุณต้องการแจกจ่ายสื่อการติดตั้งให้ผู้อื่น หรือเก็บไว้ใช้ติดตั้งหลายครั้ง โดยรองรับทั้งการสร้าง ISO แบบมี config ติดตั้งเงียบ (unattended) อัตโนมัติ และแบบไม่มี config (ผู้ใช้ต้องคลิกเอง) คุณสามารถดูขั้นตอนเพิ่มเติมในเอกสาร “Prepare / Use ISO command” บนเว็บทางการ
• การใช้คำสั่งผ่าน Command Line: สำหรับผู้ที่ต้องการเขียนสคริปต์หรือใช้งานแบบไร้หัว (headless) Office Tool Plus มีระบบ Application commands และ Deploy/Activation commands ที่เปิดทางให้เรียกฟังก์ชันต่าง ๆ ผ่านบรรทัดคำสั่งได้ เช่น การสั่ง deploy เพื่อติดตั้ง Office ตามพารามิเตอร์ที่ระบุ, การสั่ง activate เพื่อเรียกใช้การเปิดใช้งาน KMS เป็นต้น สามารถกด Ctrl + Shift + P ในโปรแกรมเพื่อเปิดช่องคอมมานด์ แล้วพิมพ์คำสั่งตามคู่มือคำสั่งที่ให้มาได้ (หรือจะรัน OfficeToolPlus.Console.exe ภายนอกก็ได้)

⚠️ คำเตือน: การตั้งค่าขั้นสูงมีความซับซ้อนและอาจทำให้การติดตั้งผิดพลาดได้หากไม่เข้าใจ ดังนั้น ไม่ควรแก้ไขค่านอกเหนือจากที่จำเป็น โดยเฉพาะในส่วน Activation settings หรือการแก้ไข config XML โดยตรง หากไม่แน่ใจควรใช้ค่าเริ่มต้นหรือศึกษาคู่มือก่อน (Office Tool Plus เองก็มีคำเตือนว่า “Don’t change any settings that you can’t understand” ไว้ด้วย)

การแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย

แม้ Office Tool Plus จะช่วยให้งานติดตั้ง/จัดการ Office ง่ายขึ้น แต่บางครั้งผู้ใช้อาจพบปัญหาหรือข้อผิดพลาดต่าง ๆ ทั้งจากตัวโปรแกรมเองหรือจากตัวติดตั้ง Office ต่อไปนี้คือปัญหาทั่วไปและวิธีแก้ไข:

1. การติดตั้ง Office ค้างหรือหยุดกลางคัน:
   • ถ้าแถบความคืบหน้าติดตั้งหยุดที่ 0-49% นานผิดปกติ มักแปลว่า ตัวติดตั้ง Office ไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์ที่ต้องการได้ สาเหตุอาจเพราะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีปัญหา: ให้ตรวจสอบความเสถียรของเครือข่าย หรือทดลองเปลี่ยนไปใช้อินเทอร์เน็ตเครือข่ายอื่นดู นอกจากนี้ ควรเปิดตัวเลือก “Download first, then deploy” เพื่อลดปัญหาการค้างจากเน็ตหลุด (โปรแกรมจะดาวน์โหลดไฟล์ให้ครบก่อนค่อยติดตั้ง ลดโอกาสค้างในช่วงติดตั้ง) อีกทางหนึ่งคือถ้ามีไฟล์ติดตั้งออฟไลน์อยู่แล้ว ให้ไปที่ส่วน Installation files และกด Verify เพื่อให้ Office Tool Plus ตรวจสอบความครบถ้วนของไฟล์ เผื่อไฟล์เสียจะได้โหลดใหม่
   • ถ้าแถบคืบหน้าค้างที่ 50-100% (ช่วงกำลังติดตั้ง) หมายถึง เกิดข้อผิดพลาดระหว่างรันตัวติดตั้ง Office กรณีนี้ถ้าตัวติดตั้งมีปุ่ม Ignore/Continue ให้คลิกข้าม error นั้นไป (การข้ามอาจทำให้บางฟีเจอร์ เช่น VBA ใช้งานไม่ได้ แต่ตัว Office โดยรวมจะติดตั้งเสร็จ) หากไม่มีหรือไม่แน่ใจ ควรลอง ปิดโปรแกรมอื่นทั้งหมดที่เปิดค้างอยู่ เพราะบางครั้งซอฟต์แวร์อื่น (เช่น Antivirus, โปรแกรมที่ใช้ Office component อยู่) อาจรบกวนการติดตั้ง Office จากนั้นรันติดตั้งใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ให้ลองใช้ฟีเจอร์ Remove Office เพื่อถอน Office ที่ค้างหรือติดตั้งไม่สมบูรณ์ออกก่อน แล้วจึงติดตั้งใหม่อีกครั้งด้วย Office Tool Plus
   • ถ้าลองทุกอย่างแล้วยังไม่ได้ผล (เช่น ค้างทุกครั้งที่ 90-100%) อาจเป็นปัญหาจากระบบ Windows เอง แนะนำให้ลอง รีสตาร์ทเครื่อง แล้วติดตั้งใหม่ หรือในกรณีเลวร้ายอาจต้อง ซ่อมแซมหรือรีเซ็ต Windows (เช่น Reset PC) เพื่อให้ระบบสะอาดก่อนติดตั้ง Office
2. ปัญหาการเปิดใช้งาน (Activation) ล้มเหลว:
   • หากกด Activate ผ่าน KMS แล้วขึ้นข้อผิดพลาด 0x8007000D: The data is invalid หรือ 0x8007007B (filename syntax invalid) – ปัญหานี้มักเกี่ยวข้องกับบริการไลเซนส์ของ Windows ให้ตรวจสอบ เวลาวันที่ของเครื่อง ว่าถูกต้องหรือไม่ (เวลาคลาดเคลื่อนมาก ๆ จะ Activate KMS ไม่ผ่าน) และตรวจสอบว่าเครื่องสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ปกติ รวมถึง เซิร์ฟเวอร์ KMS ที่ตั้งค่าไว้นั้นออนไลน์อยู่จริง (อาจลอง ping ดู หรือใช้ฟังก์ชัน Test KMS host ใน Toolbox เพื่อทดสอบการเชื่อมต่อ) จากนั้นให้ลองใช้เครื่องมือ Reset Software Protection service ในหน้า Toolbox เพื่อรีเซ็ตบริการการไลเซนส์ของ Windows (มันจะลบค่า KMS host และ policy การต่ออายุออก และถ้าตรวจพบ DLL แปลกปลอมอย่าง SppExtComObjHook.dll จะลบทิ้งด้วย ซึ่งไฟล์นี้มักมากับ KMS Emulator เถื่อน) เมื่อตั้งค่าใหม่เสร็จให้ลอง Activate อีกครั้ง
   • หากขึ้นข้อผิดพลาด 0x8007232B: DNS name does not exist – หมายถึง ยังไม่ได้ตั้งค่า KMS Host ในเครื่อง หรือชื่อโฮสต์ KMS ที่ใส่ไม่ถูกต้อง ทำให้ Office หาเซิร์ฟเวอร์ไม่เจอ วิธีแก้คือตรวจสอบว่าเราได้ใส่ชื่อหรือ IP KMS ถูกต้องแล้วใน Office Tool Plus (ดูหัวข้อ KMS ด้านบน) หากยังไม่ติดตั้ง KMS Host จริง ๆ (ไม่มี) ก็ต้องจัดหา KMS Server ที่ถูกต้องหรือเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่น นอกจากนี้อาจลองเปลี่ยน DNS Server ของเครื่อง (เช่นใช้ 8.8.8.8 ของ Google) เผื่อกรณี KMS host อยู่ในชื่อโดเมนที่ต้องการ DNS สาธารณะ แล้วลอง Activate ใหม่
   • หากขึ้น 0xC004F074: No Key Management Service (KMS) could be contacted – แปลว่าติดต่อเซิร์ฟเวอร์ KMS ไม่สำเร็จ ให้ตรวจสอบเครือข่ายของคุณก่อนเช่นกัน และแน่ใจว่า KMS Host ที่ใช้งาน ยังทำงานอยู่ (อาจหมดอายุหรือปิดตัวไป) จากนั้นลองรีเซ็ตบริการ Software Protection ด้วยวิธีเดียวกับกรณี 0x8007000D ข้างต้น แล้วลองใหม่
   • หากขึ้น 0xC004F069: product SKU is not found – ความหมายคือ ไม่มีไลเซนส์ Office ที่ตรงกับคีย์ที่กำลังติดตั้ง (SKU not found) ให้ย้อนกลับไป Install license ที่ตรงกับคีย์นั้นก่อน (เช่นคุณพยายามใส่คีย์ Volume แต่ยังไม่ได้ติดตั้ง Volume License) แล้วค่อยใส่คีย์ใหม่ก็จะผ่าน
   • หากขึ้น 0xC004F015 / 0xC004F017: license is not installed – หาก Office คุณเปิดใช้งานแล้วสามารถ มองข้ามข้อความนี้ได้ (บั๊กที่แจ้งเกิน) แต่ถ้ายังไม่ Active ก็แปลว่าขั้นตอน Activation ไม่ครบ ให้ตรวจสอบว่าทำถูกลำดับหรือไม่ (เช่นใส่คีย์แล้วหรือยัง) หรือไม่เช่นนั้นแสดงว่าคีย์นั้นใช้ไม่ได้ ต้องใช้คีย์อื่น/ซื้อไลเซนส์ที่ถูกต้อง
   • กรณี เปิด Office แล้วเจอข้อความให้เชื่อมต่อบัญชีหรือซื้อการสมัครใช้งาน ทั้งที่เรา Activate ผ่าน KMS/MAK แล้ว: อาจเกิดจากการตั้งค่าภายในโปรแกรม Office เอง ให้ลองใช้เครื่องมือ Reset Office settings to defaults (รีเซ็ตการตั้งค่า Office) ใน Toolbox ของ Office Tool Plus ดู การรีเซ็ตนี้จะล้างค่า registry และ config ของ Office กลับค่าโรงงาน ซึ่งช่วยแก้ปัญหาที่ UI Office สับสนจากไลเซนส์เดิมได้ (ตัวอย่างสถานการณ์ที่เหมาะจะใช้ เช่น Office เดิมเป็น 365 อยู่แล้วเราเปลี่ยนมาใช้ไลเซนส์ถาวร แต่โปรแกรมยังถามหาการล็อกอิน 365 อยู่ เป็นต้น)
3. ปัญหาการใช้งาน Office Tool Plus ตัวโปรแกรมเอง:
   • กรณีเปิดโปรแกรมแล้วหน้าต่างขึ้นว่างเปล่า (ไม่แสดง UI อะไรเลย) หรือโปรแกรมค้าง: ปัญหานี้เคยเกิดกับบางเครื่องเนื่องจาก Hardware acceleration ของ .NET มีปัญหากับไดรเวอร์การ์ดจอ วิธีแก้คือเปิด Command Prompt แล้วรันคำสั่ง "<path>\Office Tool Plus.exe" /enablehwacc false เพื่อสั่งปิดการใช้ฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วใน UI จากนั้นลองเปิดโปรแกรมใหม่ หากหายค้างให้ทำการอัปเดตไดรเวอร์การ์ดจอให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันในอนาคต
   • กรณีเปิดโปรแกรมแล้วมีข้อความ “Insufficient memory to continue the execution of the program” (หน่วยความจำไม่พอ): อาการนี้ทางผู้พัฒนาแนะนำให้ลอง ปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตชั่วคราวแล้วเปิด Office Tool Plus ดู เมื่อเปิดติดแล้วค่อยต่อเน็ตใหม่ (สาเหตุอาจมาจากโปรแกรมพยายามโหลดบางอย่างตอนเปิดและมีบั๊ก)
   • หากพบข้อความ error เกี่ยวกับ .NET Framework เช่น 'wminet_utils.dll' does not have all required functions ให้ทำการ อัปเดต .NET Framework ในเครื่องผ่าน Windows Update ให้ครบถ้วนก่อน แล้วจึงรันโปรแกรมใหม่ (Office Tool Plus ต้องการ .NET 4.8 ขึ้นไป)
   • ในกรณีที่ใช้งานคำสั่งหรือฟีเจอร์แล้วโปรแกรมเกิดแครช (ปิดตัวลง) ไม่ว่าจะขณะติดตั้ง Office หรือขณะ Query error code ให้ลอง รีบูตเครื่อง Windows หนึ่งครั้งแล้วทดลองใหม่ เนื่องจากบางครั้ง Windows เองมีปัญหาภายในที่เคลียร์ด้วยการรีสตาร์ทก็จบปัญหาได้
4. ปัญหา “The path is null or empty” ระหว่างติดตั้ง/ถอน Office: หาก Office Tool Plus แสดงข้อผิดพลาดนี้ แปลว่าค่าตัวแปรระบบของ Windows บางตัว (เช่น %ProgramFiles% หรือ %CommonProgramFiles%) หายไปหรือไม่ถูกต้อง ทำให้ตัวติดตั้ง Office หาพาธไม่เจอ วิธีแก้คือไปที่หน้า Toolbox > Windows tools แล้วคลิกใช้เครื่องมือ Reset system variables เพื่อคืนค่าตัวแปรระบบต่าง ๆ กลับเป็นค่าเริ่มต้น จากนั้นลองติดตั้ง/ถอน Office ใหม่อีกครั้ง
5. ปัญหา “Invalid Class” เมื่อติดตั้งไลเซนส์ Office หรือเรียกคำสั่งบางอย่าง: อาการนี้เกิดจากระบบ WMI ของ Windows มีปัญหา (class ของ Software Licensing หายไป) วิธีแก้คือไปที่ Toolbox > Windows tools แล้วเรียกใช้ Repair WMI components เพื่อให้โปรแกรมทำการ re-register คอมโพเนนต์ WMI ทั้งหมดในเครื่องใหม่ เสร็จแล้วลองดำเนินการใหม่อีกครั้ง
6. ปัญหาอื่น ๆ และแนวทาง:
   • ถ้าคุณติดตั้ง Office ไม่ได้และมีโปรแกรม WPS Office (หรือชุด Office ทางเลือกอื่น) อยู่ในเครื่อง แนะนำให้ถอนโปรแกรมเหล่านั้นออกก่อนชั่วคราว เพราะจากประสบการณ์ผู้ใช้บางรายพบว่ามันรบกวนการติดตั้ง Microsoft Office (เช่น WPS บางเวอร์ชันจองนามสกุลไฟล์ Office หรือทำให้ Registries ของ Office ผิดปกติ)
   • ซอฟต์แวร์บางตัวที่ขึ้นชื่อว่าก่อปัญหากับการติดตั้ง Office เช่น Shadow Defender (ระบบ Shadow Copy), WinZiper/WinZip เวอร์ชันที่มากับโฆษณา ฯลฯ ควรปิดหรือถอนการติดตั้งไปก่อนแล้วรีบูตเครื่อง จากนั้นค่อยลองติดตั้ง Office ใหม่
   • หากพบ Error code แปลก ๆ ที่ไม่ทราบสาเหตุ Office Tool Plus มีปุ่ม Query error code ใน Toolbox ที่ช่วยค้นคำอธิบายของโค้ดนั้น (อาจเปิดหน้าต่างรายละเอียด หรือเรียกตัวช่วยแก้ปัญหาของ Windows ขึ้นมา) ซึ่งอาจให้ข้อมูลแนวทางแก้เพิ่มเติม
   • Office Tool Plus มีชุมชนผู้ใช้งาน เช่น ฟอรัม My Digital Life และ GitHub หากหาทางแก้ไม่เจอจริง ๆ คุณสามารถสอบถามปัญหาในช่องทางเหล่านั้น โดยอาจจะแนบ บันทึกล็อกการติดตั้ง